จัดว่าโลกได้อ้าแขน ต้อนรับการมาของ M3GAN หุ่นสาวสุดสยองตัวใหม่ ที่กระหึ่มไม่เบา กลายเป็นการประเดิมเริ่มเปิดปีใหม่ ได้อย่างเป็นปรากฏการณ์ ถึงแม้พลังความแรงของเธอ อาจจะยังแรงไม่พอ ที่จะแซงหน้าแชมป์เก่า หนังบ็อกซ์บัสเตอร์เรื่องมหึมา แต่ก็สามารถแย่งซีน รวมทั้งสร้างกระแส ทำให้เหล่าชาวนาวี แผ่วแรงลงไปบ้างได้เช่นนี้ นับว่าเป็นบ็อกซ์ออฟฟิศ เริ่มปีได้อย่างน่าดึงดูดไม่เบา
และแน่นอน ว่าสุดสัปดาห์นี้ “Avatar: The Way of Water”
ก็ยังคงครองบัลลังก์ได้อีกต่อไป เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ต่อเนื่อง กันอย่างงดงาม ผ่านพ้นช่วงเทศกาลวันหยุดไปแล้ว แต่ว่ารายได้ ก็ยังน่าพึงพอใจอยู่ เก็บไปได้อีก 45 ล้านเหรียญ ลดน้อยลงมาเพียงแค่ -33% พร้อมด้วยยังครองรอบ และก็โรงฉายทั่วอเมริกาได้มากที่สุดต่อไป โดยสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังมีการเพิ่มโรงฉายขึ้นอีก ประมาณหนึ่ง แต่ว่ารายได้เฉลี่ย ต่อโรงก็ยังสู้ แตะหลักหมื่นเหรียญแบบ ไม่ยอมตกลงมา
รายได้รวมในอเมริกาเวลานี้ทะยานไปที่ 516 ล้านเหรียญ ส่วนรายรับรวมทั้งโลก เวลานี้ก็พุ่งไปอยู่ที่ 1.7 พันล้านเหรียญ
ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ ที่ 7 ของรายได้หนังทำเงินสูงสุด ตลอดกาลของโลก แล้วก็ดูทรงแล้วว่า ก็ไปสู่รายได้ 2 พันล้านเหรียญ คงจะมิได้ใช่ปัญหาอีกต่อไปแล้ว คาดว่าน่าจะใช้เวลาอีกราว 10 วันถัดจากนี้ เราคงจะได้เห็นหนังเรื่องนี้ ก้าวขึ้นสู่หนัง 2 พันล้านเหรียญ ซึ่งจะกลายเป็นเรื่องที่ 6 ในประวัติศาสตร์ ที่ทำได้
ส่วนอาทิตย์นี้ ก็ต้องเปิดทางให้กับนาง “M3GAN” หนังหุ่นพี่เลี้ยงสะพรึง เป็นหนังใหม่ ที่เปิดตัวเรื่องแรกของปี 2023 กับปรากฏการณ์ที่ไม่ธรรมดา เนื่องจากหนังสามารถ ฟันรายได้ 3 วันแรก ไปได้สูงถึง 30.2 ล้านเหรียญ จาก 3,509 โรงฉายทั่วประเทศ
หรือคิดเป็นรายได้ เฉลี่ยต่อโรง ที่ประมาณ 8 พันเหรียญเศษ ๆ ที่จัดว่าแรงพอได้เลย หนังเรื่องนี้ ได้ทีมผู้สร้างจากโปรดิวเซอร์ “เจมส์ วาน” ที่มีชื่อเสียงว่า เป็นเจ้าพ่อหนังสยอง มาช่วยปลุกความหลอน และยังผนึกกำลังกับ บลัมเฮาส์ อีกด้วย
ข้อได้เปรียบของ M3GAN
ก็บางทีอาจเป็นเพราะเป็นหนังสยอง ที่ถูกจัดเรทแค่เพียง PG-13 ทำให้สามารถกวาด กลุ่มผู้ชมวัยุรุ่น ที่เป็นกลุ่มที่ผลักดันส่งผลให้เกิดกระแสไวรัล ท่าเต้นอันเป็นตำนานล่าสุด
เวลานี้เข้าไปตีตั๋วดูหนังได้เป็นอย่างดี ทั้งยังหนังยังได้กระแสตอบรับค่อนข้างดี จากนักวิจารณ์อีกด้วย เห็นได้จากคะแนน บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ที่สูงถึง 95% หลาย ๆ คนแซวว่า สูงกว่าหนังซูเปอร์ฮีโร่ ยุคนี้ด้วยซ้ำ
แน่ ๆ ว่าหนังเรื่องนี้ ได้ดีด้วยเหตุว่ากระแสปากต่อปาก
จากผู้ชมโดยแท้จริง ทำให้หนังสามารถ ทำเงินเปิดตัวได้สูงยิ่งกว่า ที่สตูดิโอและนักวิจารณ์คาดเอาไว้ โดย M3GAN ใช้ทุนสร้างไปแค่เพียง 12 ล้านเหรียญเท่านั้น แม้ว่าจะมิได้ใช้นักแสดง ที่มีชื่อเสียงอะไร แต่ว่าเนื้อหาของหนัง ก็ดึงดูดความสนใจได้ดี และช่วงนี้หนังก็สามารถเปิดตัว กับรายได้รวมทั่วโลกได้มากกว่า 45 ล้านเหรียญแล้ว
ที่ยังทำผลลัพธ์ ได้อีกเรื่องก็คือ “Puss in Boots: The Last Wish”
ที่เป็นไปตามคาดว่า หนังจะสามารถโกยรายได้ ได้ยาว ๆ เนื่องจากว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ จะยังไม่มีหนังแอนิเมชั่น เรื่องใหม่ออกฉายเลย รวมทั้งคำวิจารณ์ รวมทั้งแรงเชียร์แบบปากต่อปาก ก็ช่วยส่งเสริมหนังเรื่องนี้อย่างดีเยี่ยม
หนังทำเงินไปอีก 13.1 ล้านเหรียญ น้อยลงไปเพียงแค่ -22% และมียอดรวม ในบ้านไปแล้วที่ 87 ล้านเหรียญ ส่วนรายได้รวมทั้งโลก ในเวลานี้ก็ใกล้แตะ 200 ล้านเหรียญแล้ว
“A Man Called Otto” หนังตลกร้ายรีเมคของ “ทอม แฮงก์ส” ที่ฤกษ์เปิดฉาย เป็นวงกว้างเพิ่มมากขึ้นในสัปดาห์นี้ ก็สามารถทำเงิน ทะยานขึ้นมาติด Top 5 ได้ กับรายได้ 4.2 ล้านเหรียญ จากเพียงแค่ 637 โรงฉายทั่วอเมริกา หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ย ที่ราว 6 พันเหรียญเศษ
ถือว่าเป็นการออกสตาร์ท ที่น่าพอใจ ถึงแม้ว่าหนังจะ ยังไม่ได้ฉายวงกว้างเต็มสตริม แต่ว่ามีแผนที่จะขาย ไปถึงกว่าพันโรง ในครอบคลุมทั่วประเทศต่อไป เพียงแต่ว่าหนังจะมี กระแสบนเวทีรางวัลมา ช่วยหนุนไหม
นอกนั้นที่ปลายตารางยังมี “The Whale” หนังดราม่าลุ้นรางวัล ทางการแสดงของ “แบรนเดน เฟรเซอร์” ที่มีลุ้นจะได้ออสการ์ ยังทำเงินได้ดี ไปอีก 1.5 ล้านเหรียญ โดยมีการเพิ่มโรงฉายมากขึ้นอีกหน่อย เป็น 835 แห่งทั่วประเทศ
แม้ว่าจะยังไม่ได้ฉายแบบเต็มรูปแบบ ทั่วอเมริกา แต่ว่าขณะนี้ก็เก็บรายได้ มาตุนเอาไว้ที่ 8 ล้านเหรียญเศษ ๆ หนังยังมีอนาคตอีกไกล ไปจนกว่าตอนฤดูกาลล่ารางวัล จะสิ้นสุดลงในมีนาคม
สำหรับสัปดาห์ที่จะถึงนั้น ที่นอกเหนือจากการที่จะมี A Man Called Otto ขยายโรงฉายเป็นวงกว้างขึ้น หลักพันโรงฉายทั่วอเมริกาแล้ว ยังมีหนังใหม่มาอีก 3 เรื่องนี้ ได้แก่ หนังแอคชั่นเรื่องใหม่ของ “เจอราร์ด บัตเลอร์” ที่ตระเตรียมแลนดิ้งใน “Plane” ตามมาด้วยหนังตลกรีเมค ที่เฉพาะกลุ่มคนอเมริกันผิวสี “House Party” และก็หนังเขย่าขวัญไซไฟ “The Devil Conspiracy” มีแผนจะฉาย ในวงค่อนข้างกว้าง