Thursday, 30 March 2023

เปิดใจเด็กนักเรียน ร้องไห้ไหว้นายทุน ปิดทางเข้าออกโรงเรียนบนเกาะหลีเป๊ะ

รายการโหนกระแส วันนี้ เปิดใจเด็กนักเรียน ร้องไห้ไหว้ นายทุน ปิดทางเข้าออกโรงเรียน บนเกาะหลีเป๊ะ ตัวแทนชาวบ้านจี้สอบ ได้เอกสารสิทธิ์โดยชอบหรือไม่ เปิดโปง ซ้ำรุกที่อุทยาน

รายการโหนกระแสวันที่ 15 ธันวาคม 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้สัมภาษณ์ ป้าดุก พิชญา แก้วขาว ตัวแทนมูลนิธิชุมชนไท ซึ่งเป็นตัวแทนชาวบ้าน , เรณู – ละออง ชาวบ้านที่ถูกนายทุนแจ้งเหตุบุกรุก ดร.มนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว รองประธานคณะกรรมการ เผยแพร่กฎหมาย สภาทนายความ แล้วก็ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ รวมทั้ง ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ

นายทุน ออก

ประเด็น นายทุน มันยังไงกันแน่ เห็นนักเรียนมาร้องห่มร้องไห้?

ป้าดุก : แท้จริงรากของปัญหา เรา มีความคิดว่า ออกเอกสารสิทธิ์โดยมิชอบ ครอบเส้นทางสาธารณะ ที่ชาวบ้านเดินกันมา 4 รุ่นคน ไม่น่าต่ำกว่า 100 ปี อยู่กัน 1,500 คนที่อยู่ที่นั่น กลุ่มคนเหล่านี้ เขาประกาศว่า จะอยู่กับสยาม ทำให้เกาะหลีเป๊ะ ซึ่งอยู่ห่างไกลจากฝั่งไป 60 กว่ากิโล ตกเป็นของไทย ทำให้เรา ได้ทะเลบริเวณนั้นมาทั้งหมด นี่คือที่มาที่ไป

แล้วไปเกี่ยวอะไรกับที่ดินแปลงนี้ ทำไมนายทุน ไปจองซื้อตรงนี้ แล้วมากั้นรั้ว เกิดอะไรขึ้น?

ป้าดุก : คือ ชาวเลเขาอยู่กันแบบพออยู่พอกิน ไม่ได้ถือเอกสารสิทธิ์ ไม่ได้แบ่งเขตอะไรกัน บ้านส่วนมาก ก็อยู่ติดทะเล เขาจำเป็นต้องออกทะเล มีเรือ พอมารุ่นที่มีเรื่องเอกสารสิทธิ์ การท่องเที่ยวเข้ามาด้วย ทำให้เขาถูกกดดัน ไม่เรียกว่า ข่มขู่ แต่ว่าถูกกดดัน บอกว่า ที่ดินที่ตรงนี้ เป็นของฉัน โดยที่ชาวบ้านไม่รู้

ที่ตรงจุดนี้ มันคืออะไร ที่เกิดกรณีพิพาท มันคืออะไร?

ป้าดุก : ตรงจุดนี้ เป็นจุดที่มีโรงเรียนอยู่ มีทางเข้าออกทะเล

แปลว่า คนมาซื้อที่ รวมทั้ง ไล่ที่ชาวบ้าน มาซื้อ น.ส.3 คือหนึ่งในคนที่รุกที่อุทยานด้วย?

ป้าดุก : ใช่ค่ะ

เขาฟ้องเราว่าอะไร?
เรณู : บุกรุกค่ะ ให้รื้อถอน กลายเป็นจำเลยแล้ว

เขาให้ออก เพราะว่า เขาซื้อมา แล้วแท้จริงๆ เป็นของใครกันแน่?

เรณู : คุณตาของเรา พูดว่า เป็นของคุณตา คุณตาไม่รู้หนังสือ คุณตา ก็ไม่รู้เรื่องว่า จะไปออกเอกสารสิทธิ์ตรงไหน ตาไม่เคยบอก คือชาวบ้านใครมาอาศัย ก็ขอคุณตา คุณตาก็ให้อยู่เป็นกลุ่มตรงนั้นหมด

ฝั่งเจ้าของที่ปัจจุบันนี้ ที่บอกว่า ไปซื้อที่ดินแปลงนี้มา เขาซื้อจากใคร?

ป้าดุก : ซื้อจากนางดารา ลูกสาวโต๊ะคีรี หนึ่งของชาวเลรุ่นแรกที่เข้ามาอยู่ ออกเอกสารสิทธิ์ไปครั้งแรก 51 ไร่ สค. 1 พอมารังวัดครั้งที่สอง เป็น 81 ไร่ พอมาเป็น น.ส.3 เวลานี้ 140 ไร่

นายทุน ทนาย

คนมาซื้อแปลงนี้เป็นนักธุรกิจ ที่รุกอุทยานด้วย?

ป้าดุก : คนนี้แหละค่ะ เขาไปสร้างรีสอร์ตรุกอุทยานค่ะ

พี่อยากที่จะให้เอาที่แปลงนี้คืนมาเป็นสาธารณะประโยชน์ หรือยังไง?

ป้าดุก : ให้เปิดทางก่อน

มุมนายทุน จะยังไง?

พันตำรวจตรีวรณัน : หนึ่ง พวกเรา ดูก่อนว่า ขั้นตอนได้มา ซึ่งเอกสารสิทธิ์ชอบมั้ย ถ้าไม่ชอบ กระบวนการจากนั้น ก็ไม่ชอบ สิทธิ์ก็ไม่ได้ ประเด็น คือ จะเป็นความผิด ฐานบุกรุกหรือไม่ เดี๋ยวไปดูข้อสรุปตามทีหลัง แต่ประเด็นเรื่องการเปิดทาง ที่ทนายความเสนอแนะ ก็ถูกทางแล้ว ไปใช้สิทธิ์ทางศาล

ทนายแก้ว : ถ้าหากเรา จะไปรื้อยกแผงเหล็กออก ตรงนี้ เรา ทำไม่ได้ การที่จะเอาออกได้ เรา ก็จะต้องใช้สิทธิ์ทางศาล ร้องเข้าไป ให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองระหว่างพิจารณาคดีก่อน ด้วยเหตุนั้น พี่จำเป็นต้องรีบดำเนินการร้องต่อศาล จะเอาไปรื้อถอนเองจะกลายเป็นข้อหา ทำให้เสียทรัพย์ ตรงนี้ พี่ต้องระวังนะครับ

ฝั่งพี่ได้รับความเดือดร้อนอย่างไร?

เรณู : เวลานี้ คือ มีคดีฟ้องร้องอยู่ ในตอนนี้ ยังเข้าออกบ้านได้ แต่ว่าก็กลัว

ป้าดุก : เขาก็ติดป้ายว่า ห้ามใครเดินเข้ามาในที่ดินของเขา พี่น้องเขาก็เลยกลัว

นักเรียนอยู่ในสาย เดือดร้อนยังไง?

นักเรียน : เข้าออกโรงเรียนยาก เพราะ มีรั้วกั้นครับ

ขึ้นเรืออ้อมหน้าหาดได้ จริงมั้ย?

นักเรียน : จริงครับ แต่ว่าใช้เวลานาน มันไกลด้วยนะครับ ไม่โอเค ถ้าเกิดนั่งเรือไป

สิ่งที่เด็กๆทำกัน ทำกันยังไง?

เด็กนักเรียน : ปีนรั้วครับผม เขาก็ยังกั้นอยู่ เด็กนักเรียน ก็จะต้องใช้วิธีนั้น ซึ่งมันเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายมากกับชีวิตมากเลยครับผม

ถ้าหากปีนรั้วอย่างนี้ ทางเขาก็สามารถแจ้งบุกรุกได้เหมือนกัน?

ทนายความแก้ว : ถูกนะครับ กรณีนี้ ความผิดฐานบุกรุกชัดเจน เพราะ เขาก็มีสิทธิ์ป้องกันที่เขาอยู่แล้ว แต่ว่าการที่น้องๆปีน ถึงแม้จะอ้างเหตุว่า พวกเรา จะเข้าไปเรียนหนังสือ แต่ว่าเราต้องไปว่ากัน ว่าตัวนายทุนมีสิทธิ์ปิดมั้ย จำเป็นต้องรอคอยให้ทนายไปดำเนินการฟ้อง เพื่อเพิกถอนก่อน

เรื่องการฟ้องร้องเข้าใจ แต่ปัญหาเร่งด่วน ที่ต้องแก้ คือ จุดที่เด็กนักเรียน จะต้องไปเรียน จะแก้ปัญหานี้ ได้อย่างไร สมมุตินายทุนเขาซื้อที่ดินแปลงนี้ถูกต้องหมดเลย เขาอ้างเป็นที่ดินของเขา จะแก้ไขอย่างไร?

ทนายแก้ว : ก็ต้อง ดูว่า ไอ้ที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะที่คุณมีสิทธิ์ซื้อหรือเปล่าก่อน ถ้าเกิดมีทางสาธารณะเป็นส่วนหนึ่งในโฉนด ที่คุณจะซื้อเอกสารสิทธิ์ คุณก็ซื้อไม่ได้ เพราะ กฎหมายระบุชัดเจนว่า ทางสาธารณะประโยชน์ต่างๆที่ได้รับจากแผ่นดิน มันจะทำการซื้อขายจับจองกันไม่ได้ จำเป็นต้องพิสูจน์กันว่า พื้นที่ตรงนี้ เป็นทางสาธารณะอยู่

วันนี้ไปเรียนกันอย่างไร?

เด็กนักเรียน : ปีนรั้วข้ามมานะครับ ทั้ง 300 คนนะครับ

ไปขอนายทุนหรือยัง?

นักเรียน : เคยขอร้อง แต่เขาไม่สนใจพวกหนูเลย

ทางโรงเรียนว่าไง?

นักเรียน : ทางโรงเรียนไม่ได้ว่าอะไร แต่พวกผมเป็นคนจะต้องเข้าโรงเรียน มันก็ยาก

จากที่เห็นมากับตา ประเมินอย่างไร?

อนุชา : พี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมถึง เด็กนักเรียน บิดามารดา ผู้ปกครอง วิถีชีวิตเขา เขาอยู่กันมาเป็น 100 ปี ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายาย จนถึงปัจจุบัน เขาก็ใช้เส้นทางนี้ เป็นเส้นทางหลัก แล้วย้ายถิ่นฐานกันโดยตลอด เนื่องจากว่า ถูกความเจริญ เข้ามาครอบงำ ในวิถีชีวิต เป็นอะไรที่น่าสงสารมาก

นายทุน โหนกระแส

ประเด็นที่จะคุยกับนายทุน มีอะไรบ้าง?

อนุชา : จากการสอบถาม ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ทางเส้นนี้ เขาใช้เป็นทางหลักในชีวิตประจำวันมาช้านานแล้ว โรงเรียน ก็ใช้ทางนี้ ไม่ใช่เด็กนักเรียน เรียนอย่างเดียว แม้แต่เขาเป็นชาวเล เขาก็ใช้วิถีชีวิต สำหรับการหาเลี้ยงชีพกับทางนี้ด้วย

ไม่ใช่เฉพาะเด็กนักเรียนอย่างเดียว ก็ไม่มีเส้นทางเส้นอื่นให้เขาได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ที่เรื่องนี้จำเป็นต้องไปสู่กระบวนการยุติธรรม อย่างเต็มรูปแบบ

อีกกรณี ชาวบ้านก็ไม่สบายใจเช่นกัน มองอีกมุมนึง คือ มีเด็กๆนักเรียน 300 คน รวมทั้ง ชาวบ้านแถวนั้น เคยไปขอนายทุนท่านนั้น บอกว่า ขอเถอะอย่าปิดเลย แต่ว่าเขาก็ไม่คุยด้วย เขาติดเลยว่า บุกรุกมีโทษโดยชอบด้วยกฎหมายต่างๆนานา ประเด็นอย่างนี้เหมือนเขาไม่ได้เกรงกลัวอะไรหรือเปล่า?

อนุชา : ไม่เป็นไรครับผม เดี๋ยวต้องดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมาย อย่างเต็มที่ เมื่อกี้ได้ยินชื่อท่านเลขาฯ ธนกฤต ประเด็นนี้จะต้องให้กระทรวงยุติธรรมเป็นเจ้าภาพ

สำหรับในการบริหารจัดการ ในส่วนกระบวนการยุติธรรม และ เรียกร้องสิทธิ์แทนพี่น้อง ที่เขาขาดที่พึ่ง ผมคิดว่า เรื่องนี้ ไม่เหลือบ่ากว่าแรงกระทรวงยุติธรรม ที่จะมาดำเนินการ ถ้าหากเจ้าของ หรือ คนได้รับสิทธิ์ ถ้าหากเขามีความคิดว่า เขาดำเนินงานถูกต้องหรือไม่อย่างไร เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน

ต้องการพูดอะไรกับท่าน?

ป้าดุก : เรื่องเร่งด่วนค่ะ เพราะ ขณะนี้ เด็กก็ไม่ได้ตั้งใจเรียน พอเด็กไปนั่งเรียน เขาก็มาเชื่อมเหล็กที่จะปิด พี่น้องก็เก็บเต็นท์มา 4 รอบแล้วค่ะ พอพี่น้องไม่มาเฝ้า เขาก็เอาคนงานมาก่อสร้าง เป็นแบบนี้เมื่อวันที่ 26 จนถึงวันนี้ พี่น้องคุยกับปลัดเรา คุยกันรู้เรื่องว่า ถอยนะ วิ่งกันออกมา ต้องมาเฝ้าไม่ให้เขาเชื่อมเหล็กสำเร็จ ศาลจะนัดสอบสวนอาทิตย์หน้า

อนุชา : ผมลงมาพูดคุยกับพี่น้อง ทั้งยังผู้บัญชาการ รองผู้บัญชาการ ภาค และ บิ๊กโจ๊ก รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ทางดีเอสไอก็จะได้เฝ้าระวัง เพื่อมีการคุยหลายมิติ ให้เกิดความชอบธรรม ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมได้คุยกับพี่น้อง ในส่วนแกนนำ พี่น้องต่างๆ ค่อนข้างชัดเจน

ในการเดินทางระยะยาว เพื่อลูกหลาน เพื่อเขามีชีวิต แล้วก็ การดำรงชีวิตที่ดียิ่งขึ้นด้วย ไม่ใช่แค่ ณ เวลานี้เพียงแค่นั้น คุยกันในส่วนระยะยาวที่เราจะดูแล